สปอยล์ Big Mouth ตอนที่ 13

13

โนพัคอยู่ในร้านอาหารกระทะเหล็กของเขาซึ่งระเบิดต่อหน้าชางโฮและทนายคิมที่อยู่ด้านหน้าร้าน พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของนายกฯชเวที่ได้รับคำสั่งจากท่านผู้อาวุโสคังซองกึนที่ต้องการเตือนชางโฮไม่ให้ยุ่งกับเขาอีก ถึงแม้ว่าท่านผู้อาวุโสจะไม่เห็นด้วยกับนายกฯชเวที่จะฆ่าชางโฮเพราะการนองเลือดไม่ใช่แนวของเขา แต่นายกฯชเวก็ยังต้องการกำจัดชางโฮอยู่ดีและคิดว่าคังซองกึนเป็นผู้อาวุโสที่เหลี่ยมจัด

นักฆ่า“นกน้ำ” รับคำสั่งจากเลขาโจและสะกดรอยตามชางโฮไปที่ร้านของโนพัค เจอร์รี่เข้ามาช่วยไว้ทันขณะที่ชางโฮกำลังถูกทำร้าย เขาส่งลูกน้องไปรับมีโฮและพ่อของเธอไปอยู่ห้องสวีทที่โรงแรมชาร์ลส์และมีบอดี้การ์ดคุ้มกันเพื่อความปลอดภัย

เจอร์รี่พาชางโฮไปที่โบสถ์ซึ่งจัดงานศพของบิ๊กเมาส์ ที่นั่นมีเพียงสมาชิกหลักขององค์กรรวมถึงอดีตพัศดีพัคยุนกับซึ่งเป็นสมาชิกลำดับที่สาม พวกเขาเคยได้รับความช่วยเหลือจากบิ๊กเมาส์และต่อมาก็พัฒนาเป็นความสัมพันธ์แบบเกื้อกูลกัน ไม่มีรูปถ่ายของโนพัคในงานศพนอกจากคลิปที่เขาได้อัดไว้ล่วงหน้าเพื่อบอกกับสมาชิกทุกคนว่า เขาจะมอบอำนาจทั้งหมดให้กับพัคชางโฮที่จะเป็นบิ๊กเมาส์ผู้นำองค์กรคนต่อไปด้วยแนวทางใหม่ เพราะเขาแน่ใจและยืนยันได้แล้วว่าชางโฮมีความสามารถพออีกทั้งรอบคอบและอาจหาญ จึงขอให้ทุกคนเชื่อใจและทำตามคำสั่งของชางโฮด้วยความจงรักภักดี พัคยุนกับเข้าใจผิดว่าชางโฮคือคนถ่ายคลิปนั้นเพื่อจะยึดองค์กรบิ๊กเมาส์ ทนายคิมปรากฎตัวและบอกว่าเขาคือคนถ่ายเองเพราะนั่นคือคำขอสุดท้ายของบิ๊กเมาส์ ทนายคิมเป็นสมาชิกลำดับที่สองและเป็นคนที่ขอให้โนพัคคอยช่วยเหลือชางโฮขณะอยู่ในเรือนจำเพราะไม่ต้องกายให้เพื่อนต้องตายอย่างอยุติธรรม เขาให้เวลาชางโฮหนึ่งวันเพื่อตัดสินใจรับตำแหน่งบิ๊กเมาส์

ถึงแม้ชางโฮจะรู้ว่าการต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นเรื่องยาก แต่เขาก็อยากจะทำให้ความต้องการของโนพัคสำเร็จให้ได้ ด้วยการเปลี่ยนโลกและความฝันของศัตรูเหล่านั้นให้เป็นนรกขุมอเวจี จากนั้นเขาก็จะวางมือ

โนซูจินคือลูกสาวของโนพัคที่เป็นนักข่าวอิสระซึ่งหายตัวไปและเสียชีวิตระหว่างการทำข่าวเปิดโปงเอ็นอาร์ฟอรั่ม โครงกระดูกของเธอถูกพบหลังจากนั้นสามปี ในสมุดบันทึกของเธอมีเพียงข้อความว่างานวิจัยและชื่อของซอแจยง แต่ซอแจยงถูกฆ่าเสียก่อนที่จะโดนสอบปากคำ องค์กรบิ๊กเมาส์ส่งตัวปีเตอร์ฮงเข้าไปอยู่กลุ่มนั้นเพื่อสืบเรื่องของโนซูจิน แต่เขากลับเชิดเงินแสนล้านและหนีไป บิ๊กเมาส์ตามหาจนเจอและฆ่าปิดปากเมื่อรู้ว่าเขาเข้ามอบตัว แต่เงินจำนวนนั้นถูกคนอื่นขุดพบและเอาไปแล้วซึ่งบิ๊กเมาส์ไม่ได้สนใจ

ชางโฮเริ่มงานในฐานะบิ๊กเมาส์โดยสั่งทนายคิมให้ขุดคุ้ยข้อมูลของเอ็นอาร์ฟอรั่มและประวัติของคังซองกึนทั้งทรัพย์สิน ครอบครัวและชีวิตส่วนตัว

เอ็นอาร์ฟอรั่มมีสมาชิกทั้งหมดยี่สิบเอ็ดคนโดยมีอัยการชเวจุงนักเป็นสมาชิกคนล่าสุด ประธานคังซองกึนอายุ85ปี อดีตพลตรีในกองทัพบกและเป็นประธานคนแรกที่ก่อตั้งเอ็นเค เคมิคอล เขาใช้เงินและเส้นสายเพื่อพัฒนาเมืองกูชอนในหลายๆด้านจนเป็นเมืองที่เจริญอย่างทุกวันนี้ กิจการของเขาส่วนใหญ่ทำให้มีผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก นอกจากเอ็นเค เคมิคอลแล้ว เขายังมีธุรกิจไนน์เซมิคอนดักเตอร์และพลังงานนิวเคลียร์ ท่อในอุโมงก์ที่ทำให้เกิดสารพิษรั่วเพราะเกิดหลุมยุบเมื่อไม่นานนี้เป็นของฟาร์มปลา ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่ามีการลักลอบใช้น้ำบาดาลอย่างผิดกฎหมาย

ฮยอนจูฮีไม่พอใจเมื่อได้รับรายงานว่ามีสารพิษรั่วไหล เธอจึงขอให้ท่านผู้อาวุโสคังซองกึนวางมือจากกิจการเคมีภัณฑ์ เพราะผลข้างเคียงที่เกิดจากเอ็นเอฟไนน์เกินขีดจำกัดที่จะรับมือไหว ทำให้มีคนตายจำนวนมากและยังเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ แต่คังซองกึนบอกว่ามันคือความภูมิใจและเกียรติยศของเขาที่ได้สร้างขึ้นมาและสามารถปกปิดเรื่องนี้มาได้เป็นสิบปี นายกฯชเวเตือนภรรยาของเขาว่าคังซองกึนเป็นคนมือสกปรกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขายอมรับกับจูฮีว่าเป็นคนฆ่าดร.ซอแจยง เพราะเคยรับปากกับผู้อาวุโสไว้ว่าจะยอมทำทุกอย่างหากได้แต่งงานกับเธอ จูฮีทั้งตกใจและเสียใจกับสิ่งที่ได้ยินจากสามีของเธอ

ฮยอนจูฮีออกคำสั่งหัวหน้าพยาบาลพัคและผู้คุมห้องแล็บลับใต้ดิน ให้ทำลายห้องนั้นทิ้งทั้งหมดให้เสร็จภายในรุ่งสางของวันพรุ่งนี้ ฮันแทโฮไม่พอใจจูฮีที่สั่งทำลายห้องแล็บอย่างสิ้นซากโดยไม่ขออนุญาตจากเขาซึ่งเป็นผู้จัดการห้องแล็บแห่งนั้น จูฮีให้เหตุผลกับผู้อาวุโสคังซองกึนว่าเธอทำลายห้องแล็บลับทิ้งเพราะตอนนี้โลกรับรู้ถึงผลงานวิจัยของดร.ซอแจยงแล้ว เธอจะลาออกจากโรงพยาบาลและสร้างห้องแล็บใหม่ที่ดีกว่าเดิม แต่เธอขอหุ้นทั้งหมดที่ท่านเคยตั้งใจจะยกให้ประธานกง เพื่ออำนาจและทำห้องแล็บให้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจ ผู้อาวุโสมอบหุ้นทั้งหมดของหนังสือพิมพ์รายวันอุนจูให้กับจูฮีต่อหน้านายกฯชเวและประธานกง

หลังจากที่ยังซอนชิกพ้นโทษ ชางโฮจึงให้เขาและลูกน้องช่วยดูแลร้านอาหารใหม่ที่เพิ่งเปิดโดยไม่เกี่ยงค่าตอบแทน พัคยุนกับยังไม่ยอมรับในตัวชางโฮที่จะเป็นบิ๊กเมาส์ เขาซื้อลานขยะขนาดใหญ่และมีลูกน้องของตัวเองซึ่งทำงานร่วมกับแก๊งซูรีที่อยู่ย่านนั้นและส่งคนไปทำร้ายนายกฯชเวโดฮาจนได้รับบาดเจ็บเพราะแค้นที่บิ๊กเมาส์ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ทนายคิมเตือนชางโฮว่าไม่ควรปล่อยให้พัคยุนกับทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่เช่นนั้นองค์กรจะล่มสลาย

พัคยุนกับถูกทนายคิมซ้อมและทรมานเพื่อเป็นการสั่งสอน ก่อนที่จะถูกลากไปต่อหน้าชางโฮที่อธิบายให้ฟังถึงแผนและวิธีการที่จะกำจัดศัตรู จากนั้นเขาก็จะวางมือเพราะไม่ได้สนใจที่จะเป็นบิ๊กเมาส์

โจแฮซู (ปู่ของนายกฯชเว) อดีตผู้จัดการห้องวิจัยเอ็นเค เคมิคอลที่ตกเป็นข่าวดังว่าฆ่าตัวตาย ต่อมาครอบครัวของเขาก็ตายทั้งหมดแม้แต่โจซองฮยอนซึ่งเป็นหลานปู่ที่จมน้ำตายเมื่อสามสิบปีก่อน ตอนนี้เหลือเพียงคุณตาชเวเพียงคนเดียวซึ่งเป็นน้องชายของภรรยาและอยู่ที่สถานพักฟื้นกรีนนาแร

มีโฮไปเยี่ยมคุณตาชเวที่กำลังดูรูปถ่ายของหลานชายในวัยเด็ก และร้องไห้ขอให้เธอช่วยโดฮาที่กำลังจมน้ำ พยาบาลบอกว่าโดฮาคือหลานชายของคุณตาที่จมแม่น้ำแฮชอนตายเมื่อสามสิบปีก่อน แต่เมื่อพ่อของมีโฮเช็คข้อมูลแล้วจึงรู้ว่าผู้ปกครองของคุณตาชเวก็คือนายกฯชเวโดฮา

นายกฯชเวโดฮาแถลงกับสื่อว่าตนเองจะไม่ลงสมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่จะถึง เพราะจะลงเลือกตั้งเป็นส.ส.ของพรรคประชาชนประชาธิปไตย เมื่อชางโฮคิดวิธีที่จะเข้าใกล้ประธานคังซองกึนได้แล้ว เขาจึงขอให้ทนายคิมรวบรวมนักข่าวให้มากที่สุดเพื่อจัดแถลงข่าวและชวนประธานกงไปร่วมงานนี้ด้วย ชางโฮประกาศว่าตนเองจะลงสมัครนายกเทศมนตรีในฐานะผู้สมัครอิสระ เพราะนายกฯชเวโดฮามีส่วนพัวพันกับองค์กรทุจริตในพื้นที่ระหว่างดำรงตำแหน่ง เขาจึงต้องการตัดสายสัมพันธ์สกปรกเหล่านั้นทิ้ง ชางโฮขอให้ประธานกงผลักดันให้เขาได้เป็นนายกฯและนัดพบประธานคังให้กับเขา แล้วเขาจะทำให้ประธานกงมีอำนาจเหมือนประธานคัง ชางโฮได้เข้าพบประธานคังอย่างที่ต้องการในขณะที่นายกฯชเวโดฮาอยู่ที่นั่น