สปอยล์ Alice ตอนที่ 13-14
นักฆ่าจูแฮมินจากอนาคตแฝงตัวอยู่ในบ้านแทอีและต้องการกำจัดเธอ จินกยอมเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน จูแฮมินบอกว่าจำเป็นต้องฆ่าเธอเพื่ออนาคต จินกยอมเห็นเขากดไทม์การ์ดก่อนที่จะหายตัวไปและทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ แทอีบอกน้องสาวให้กลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่ร้านสักพักเพื่อความปลอดภัย หากพวกเขาถามเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ให้บอกเพียงว่าคนร้ายเป็นพวกสะกดรอย จินกยอมต้องการรู้ลึกว่าแทอีและพี่ซอจินรู้จักกันได้อย่างไร เพราะคนร้ายต้องการกำจัดพวกเธอทั้งคู่ แต่แทอียังอยู่ในอาการโศกเศร้าและหวาดกลัว เธอไม่พร้อมที่จะตอบคำถาม
ตำรวจไม่พบรอยนิ้วมือหรือหลักฐานอื่นในที่เกิดเหตุ นอกจากสูตรปริศนาที่คนร้ายเขียนไว้บนผนังและภาพสเก็ตช์ใบหน้าของคนร้ายตามที่จินกยอมบอก ผู้กองโกจึงสั่งให้สืบทั้งห้าคนที่ทำงานที่ศูนย์วิจัยเดียวกับแทอี และสิ่งที่พวกเขากำลังทำวิจัย ส่วนโทรศัพท์ของคนร้ายก็มีเพียงเบอร์เดียวที่โทรออก ซึ่งตำรวจคิดว่าน่าจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ผู้กองโกพยายามจะคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ ที่เป็นเบอร์เดียวกับตอนที่แม่ของจินกยอมได้รับข้อความจากเบอร์นี้ก่อนตาย และเป็นเบอร์ที่ไม่มีอยู่จริงเพราะไม่สามารถติดต่อกลับได้ แทอีไม่เข้าใจว่าสูตรปริศนาคืออะไร และสาเหตุที่คนร้ายมาเขียนไว้บนผนัง
เพื่อความปลอดภัยของแทอี จินกยอมจึงสั่งให้ศูนย์ควบคุมเฝ้าดูกล้องวงจรปิดในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง และเขาต้องการจับคนร้ายให้ได้ เมื่อส่งแทอีที่ร้านของพ่อแม่แล้ว เขาขอให้เธอบอกเขาทุกครั้งเวลาที่จะออกไปข้างนอก แต่แทอีบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อแทอีถามว่าคนร้ายคือนักท่องเวลาที่มุ่งเป้ามาที่เธอกับพี่ซอจินใช่ไหม เพราะพวกเขากำลังทำวิจัยเรื่องการเดินทางท่องเวลา แต่จินกยอมบอกว่าไม่ใช่ เพราะไม่มีเหตุผลที่จะพุ่งเป้าไปที่ทีมวิจัยที่ไม่มีอะไรคืบหน้า แทอีจึงพูดถึงเรื่องค่าคงที่ของจักรวาลซึ่งเป็นค่าทางฟิสิกส์ที่ไอน์สไตน์ยอมรับว่าผิดพลาด และถูกโละทิ้งไปจนถึงช่วงต้นยุค 1990 แต่ในปี 1998 เมื่ออัตราเร่งการขยายตัวของจักรวาลได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจริง ค่าคงที่ของจักรวาลก็ได้รับความสนใจอีกครั้ง และ ผอ.ซอกโอวอนก็ทุ่มเททุกอย่างเพื่อพิสูจน์สมการทางจักรวาลและการเดินทางข้ามเวลา และเธอก็เชื่อว่าเขาจะทำสำเร็จ จินกยอมนึกถึงซอกโอวอนที่เคยพูดถึงแม่ของเขา จึงถามแทอีว่าพัคซอนยองเคยอยู่ในทีมวิจัยด้วยหรือเปล่า
ก่อนเสียชีวิต พัคซอนยองเคยไปหาซอกโอวอนและพูดถึงเรื่องการท่องเวลา เธอมอบ”คัมภีร์แห่งคำทำนาย”ให้กับเขาและบอกว่า มันคือบันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เขียนโดยบุคคลในอนาคต แต่ในตอนนั้นซอกโอวอนไม่เชื่อและมองเป็นเรื่องขบขัน เธอจึงเปิดคัมภีร์หน้าที่มีชื่อของเขาถูกเขียนไว้ “เมื่อความปรารถนาอันหยิ่งผยองเอาชนะโลกใบนี้ คนที่หวาดกลัวก็จะก้าวเข้ามา ซอกโอวอนกับเหล่านักวิทยาศาสตร์หมายจะปิดประตูแห่งกาลเวลา..เพื่อสร้างลำดับเวลาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง” โอวอนยังคงไม่เชื่อและขอให้พัคซอนยองกลับไป เธอจึงถามว่า หากเธอสามารถสร้างพลังงานเชิงลบได้ เขาจะยอมเชื่อไหม จากนั้นพัคซอนยองก็พาโอวอนไปดูตัวเธอเอง ซึ่งก็คือยุนแทอีที่กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย เธอบอกว่า หากเธอเป็นอะไรไป ขอให้ยุนแทอีได้ทำงานวิจัยต่อจากเธอ เพราะแทอีคือคนที่สามารถหยุดการท่องเวลาได้
ลูกน้องของซอกโอวอนรายงานว่าแทอีปลอดภัย และขอให้เขารีบหนีเพราะเวลาใกล้จะหมดแล้ว ซอกโอวอนบอกจินกยอมว่า แม่ของเขาคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้นักฆ่าพุ่งเป้ามาที่นักวิจัย เพราะเมื่อสิบปีก่อนเธอมาขอร้องให้เขาช่วยหยุดเรื่องเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นจากการข้ามเวลา แม้ว่าหลังจากเธอเสียชีวิตแล้ว เขาก็รวบรวมทีมและพยายามหยุดยั้งการท่องเวลา โอวอนเห็นว่าเวลาใกล้จะหมดแล้ว จึงขอให้จินกยอมรีบไปอ่าน “คัมภีร์แห่งคำทำนาย” ซึ่งอยู่ที่เขา ขณะที่รอจินกยอม นักท่องเวลาได้ลักพาตัวซอกโอวอนไป
เมื่อพี่ชายของมินฮยอกได้รับรายงานว่าจูแฮมินไม่ใช่ลูกค้าของอลิซ แต่ใช้เส้นทางเดียวกับที่อีเซฮุนใช้เมื่อปี 1992 และมียุนแทอีอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์เหมือนกัน เขาจึงสั่งให้ลูกน้องรีบไปพามินฮยอกออกจากสถานีตำรวจ และสืบว่ายุนแทอีกำลังทำวิจัยเรื่องอะไร
ตำรวจไม่พบร่องรอยคนร้ายที่ลักพาตัวซอกโอวอน จินกยอมจึงสั่งให้สายสืบดงโฮช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับทีมวิจัย แทอีไปค้างที่ร้านของพ่อแม่ เมื่อฝันร้ายและนอนไม่หลับ เธอจึงโทรหาจินกยอมและขอกลับไปที่บ้านของเธอ แต่ต้องแปลกใจที่เห็นเขารออยู่ที่หน้าร้านแล้ว โดยที่ไม่รู้ว่าจินกยอมมาดูแลความปลอดภัยให้เธอ
หลังจากเกิดเหตุร้าย ทำให้ไฟฟ้าที่บ้านของแทอีดับ เธอเห็นอะไรบางอย่างในสูตรปริศนาที่คนร้ายเขียนไว้ แต่ในความมืดนั้นคิมโดยอนแอบเข้ามาและได้พบกับจินกยอมและแทอีที่นั่น จินกยอมต่อว่าที่เธอแอบเข้ามาทำข่าวคดีนี้ทั้งๆที่เขาขอร้องไว้แล้ว แต่โดยอนอยากรู้ว่าเรื่องแปลกๆ ที่เกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่ อีกทั้งจินกยอมก็เปลี่ยนไปและมีอะไรปิดบังเธออยู่ เธอสงสัยว่าทำไมมินฮยอกจึงไปอยู่ในรูปปี 1992 และทำไมจินกยอมถึงรู้ล่วงหน้าเรื่องคดีแมวชเรอดิงเงอร์ เมื่อแทอีได้ยินสิ่งที่โดยอนพูด เธอจึงถามความจริงจากจินกยอม แต่เขาบอกเพียงว่าเป็นความลับทางการสืบสวน
จินกยอมไปส่งแทอีที่ร้าน พ่อแม่ของเธอจึงชวนเข้าไปกินอาหาร เพื่อไม่ให้พ่อแม่เป็นห่วง จินกยอมจึงตอบไปว่าเขาจับคนที่สะกดรอยแทอีได้แล้ว
จินกยอมได้รับรายงานว่า โทรศัพท์ของคนร้ายเป็นเบอร์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนในระบบ แต่มีบันทึกการโทรอยู่ เขาจึงไปที่บ้านเด็กกำพร้า ตามที่เห็นในประวัติการโทร ขณะที่พ่อแม่ของแทอีบอกเธอว่า ผอ.บ้านเด็กกำพร้าโทรมาหา
ผอ.บ้านเด็กกำพร้าเล่าว่าเมื่อสองวันก่อน มีชายอายุประมาณสี่สิบมาถามว่า แทอีมาอยู่ที่นี่เมื่อปี 1992 ได้อย่างไรและมีหนังสือติดตัวมาด้วยหรือเปล่า ซึ่งแทอีไม่เข้าใจว่าหนังสืออะไร เมื่อจินกยอมไปที่นั่น เขาจึงได้พบแทอีโดยบังเอิญและรู้เรื่องที่มีผู้ชายมาถามเรื่องของเธอ เขาคิดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
แทอีและจินกยอมยืนดูรูปหมู่ที่เธอถ่ายร่วมกับเด็กกำพร้าคนอื่นๆ เมื่อตอนห้าขวบ และเล่าว่าแม่ของเธอพามาอยู่ที่นี่และไม่กลับมาหาเธออีกเลย และเธอก็เพิ่งรู้จาก ผอ.ว่าพ่อเสียชีวิตในปี 1992 จินกยอมเป็นห่วงเธอจึงบอกว่าต่อไปห้ามไปไหนคนเดียว และเขาจะเป็นคนไปส่งเธอที่บ้านเอง เมื่อแทอีถามถึงเหตุการณ์ในปี 1992 ว่าเกี่ยวข้องกับเธอหรือเปล่า จินกยอมจึงตอบว่ามันเกี่ยวกับมินฮยอกซึ่งตอนนี้อยู่ในห้องขัง เธอจึงขอเจอเขา เพราะเขาเป็นนักท่องเวลาที่มาหาเธอก่อนหน้านั้น
จินกยอมนำภาพถ่ายคดี ดร.จางดงชิก ไปถามมินฮยอกว่า เขาคือคนที่ตัดข้อเท้าอีเซฮุนหรือเปล่า เพราะอีเซฮุนคือคนร้ายหนึ่งในสามที่ตำรวจจับได้ เขาคิดว่ามินฮยอกคือคนที่ฆ่า ดร.จาง เพราะ “คัมภีร์แห่งคำทำนาย” มินฮยอกไม่ตอบอะไร นอกจากสงสัยว่าทำไมจินกยอมถึงได้ปกป้องแทอีขนาดนี้
จินกยอมปล่อยให้มินฮยอกและแทอีได้คุยกันตามลำพัง เธอสงสัยว่ามินฮยอกมาหาเธอที่สวนสาธารณะทำไม เขาจึงบอกว่ามาเตือนเพราะเธอกำลังทำเรื่องที่อันตราย เมื่อถูกถามว่าทำไมจึงข้ามเวลามาเพื่อฆ่าเธอ ทำให้มินฮยอกโมโหที่เธอเข้าใจผิด จึงเผลอตัวพูดเสียงดังจนทำให้แทอีคิดว่าเขาคงสนิทกับเธอมาก่อน มินฮยอกจึงต้องระงับอารมณ์และพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่าเขาไม่เคยรู้จักเธอ แต่แทอีไม่เชื่อและยังคงถามต่อไปว่า สาเหตุที่เขาอยากฆ่าเธอก็เพราะตัวเธอจะสร้างปัญหาในอนาคตใช่หรือไม่ ในเมื่อมินฮยอกไม่ยอมตอบ เธอจึงขอให้เขารอดูว่า เธอจะพิสูจน์การมีอยู่ของโลกอนาคตที่มินฮยอกอยู่ แม้ตำรวจไม่สามารถจับเขาได้ก็ตาม มินฮยอกเตือนเธออีกครั้ง ไม่ให้ทำสิ่งที่อันตราย
ขณะที่แทอีกำลังคุยอยู่กับมินฮยอก จินกยอมดูแฟ้มคดีเก่าและได้เห็นภาพเด็กหญิงวัยห้าขวบลูกสาวของ ดร.จาง ซึ่งคล้ายกับแทอีในรูปที่บ้านเด็กกำพร้า หลังจากนั้นมินฮยอกบอกจินกยอมว่า คนร้ายเป็นนักท่องเวลาผิดกฎหมาย และคงมีจุดทั่วร่างกายที่เกิดจากรังสี และการรับมือกับคนที่มาจากอนาคต จะเชื่อแต่สิ่งที่ตาเห็นไม่ได้ จินกยอมจึงสั่งให้สายสืบดงโฮเช็คผลการชันสูตรศพของซอจิน ซึ่งระบุว่ารอยจุดบนศพมีปริมาณรังสีมากกว่าปกติถึงสามสิบเท่า
แทอีอยู่ทำงานต่อที่มหาวิทยาลัยเพื่อค้นหาสูตร โดยมีตำรวจสามนายอยู่ดูแลความปลอดภัยให้ จึงบอกให้จินกยอมกลับไปก่อน เขาเดินสวนกับจูแฮมินซึ่งปลอมตัวเป็นนักฟิสิกส์ที่ถูกจับตัวไป
หลังจากที่คนของอลิซมาช่วยมินฮยอกออกจากห้องขังแล้ว เขาก็ตรงไปที่มหาวิทยาลัยซึ่งแทอีกำลังอยู่ที่นั่น เมื่อจินกยอมดูภาสเก๊ตช์คนร้าย ซึ่งคล้ายกับคนที่เขาเดินสวนทางและมีรอยจุดตามลำตัวจากรังสี เขาจึงรีบกลับไปที่มหาวิทยาลัยทันที
แทอีแปลกใจเมื่อเห็นจูแฮมินเข้าไปหาและเขียนสูตรต่อจากเธอ เมื่อสังเกตรอยจุดแดงที่แขนและจูแฮมินถอดแคปซูลที่เหน็บหูออกแล้ว เธอจึงรู้ว่าเขาคือคนร้ายในคืนนั้น เขาบอกว่าต้องการฆ่าเธอ เพราะเธอเห็นในสิ่งที่ไม่สมควร ซึ่งก็คือ “คัมภีร์แห่งคำทำนาย”
ขณะที่จูแฮมินกำลังจะจ้วงแทงแทอี มินฮยอกเข้ามาช่วยได้ทันและบอกให้แทอีออกไปจากห้อง เขาถูกจูแฮมินแทงและอยากรู้ว่า เขามาฆ่าคนในอดีตทำไม จูแฮมินจึงโทษว่าเป็นความผิดของมินฮยอกที่ทำให้หนังสือตกอยู่ในมือของคนในอดีต แทอีวิ่งกลับเข้ามาและใช้ปืนสเปรย์ฉีดไปที่จูแฮมิน แต่เธอสู้แรงของเขาไม่ได้ จินกยอมที่เพิ่งมาถึง จึงรีบเข้าไปช่วย โดยไม่ทันสังเกตว่ามินฮยอกนอนบาดเจ็บอยู่ตรงนั้น ขณะที่จินกยอมและจูแฮมินกำลังต่อสู้กัน มินฮยอกได้หลบออกไปก่อน จูแฮมินสู้จินกยอมไม่ได้จึงใช้ไทม์การ์ดหลบหนีไป แทอีตกใจและหวาดกลัวจึงโผเข้ากอดจินกยอม ซึ่งมินฮยอกแอบดูอยู่ด้านนอก
ผู้กองโกฮยองซอกเปิดดูคัมภีร์เล่มนั้นต่อหน้าซอกโอวอนที่เขาลักพาตัวมาและมัดไว้ เมื่อเห็นหน้าสุดท้ายหายไป เขาจึงนึกถึงเหตุการณ์ในคดี ดร.จางดงชิก เมื่อ ผอ.บ้านเด็กกำพร้าส่งรูปหมู่มาให้จินกยอม เขาจึงแน่ใจว่าแทอีคือลูกสาวของ ดร.จาง
เมื่อแทอีเล่าว่า เพราะเธออ่าน “คัมภีร์แห่งคำทำนาย” เธอจะต้องตาย ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่ามันคือหนังสืออะไร ทำให้จินกยอมนึกถึงอีเซฮุนที่เคยบอกว่า ใครที่มีหนังสือเล่มนี้ ถ้าไม่ตายก็ต้องมีจุดจบแบบเขา จินกยอมจึงขอให้แทอีไปอยู่กับเขาชั่วคราวที่บ้านเก่าของแม่เพื่อความปลอดภัย แทอีแปลกใจที่จินกยอมเป็นห่วงเธอมากมายถึงเพียงนี้ เขาจึงบอกว่าเพราะเธอคือคนพิเศษ
ที่บ้านแม่ มีรูปคู่ของจินกยอมและแทอี ตอนที่เป็นเด็ก
ในวันเด็กปี 1995 ที่สวนสนุก
แม่พาจินกยอมไปที่สวนสนุกและได้ยินคนเรียกชื่อแทอี มีเด็กผู้หญิงคนนึงที่ชื่อแทอีเหมือนกับเธอ จินกยอมเดินไปหาเด็กคนนั้นที่ถือลูกโป่งอยู่ในมือ แม่ของเขาจึงถ่ายรูปไว้..